รูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร

       สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน คิดถึงลิตเติ้ลอาร์กันไหมเอ่ย หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วลิตเติ้ลอาร์เล่าเรื่องทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ให้เพื่อน ๆ ฟังไป สัปดาห์นี้ลิตเติ้ลอาร์ก็มีเรื่องเกี่ยวกับโบราณวัตถุอีกหนึ่งชิ้นมาฝากเพื่อน ๆ ด้วย นั่นก็คือ รูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เราไปรู้จักกับโบราณวัตถุชิ้นนี้กันเลยดีกว่า



ที่มา: https://www.bloggang.com 



       รูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นศิลปะสมัยศรีวิชัยอิทธิพลชวาภาคกลาง พบที่วัดเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 14 หรือประมาณ 1,200 ปีมาแล้ว สูง 63 เซนติเมตร สันนิษฐานว่าพระโพธิสัตว์องค์นี้ปั้นและหล่อขึ้นในดินแดนทางภาคใต้ของประเทศไทยลงไปถึงเกาะชวาของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่ออาณาจักรศรีวิชัย ที่นับถือพระพุทธศาสนาแบบมหายาน มีพระโพธิสัตว์เป็นรูปเคารพที่สำคัญ
       เมื่อครั้งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ได้เสด็จตรวจราชการตามมณฑลต่างๆ ทั่วประเทศ และเมื่อเสด็จมณฑลทางใต้ ได้เสด็จไปนมัสการพระบรมธาตุที่วัดพระบรมธาตุไชยา ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในขณะประทับอยู่บนหลังช้างที่นั่งก็ทอดพระเนตรไปเห็นวัตถุสิ่งหนึ่งวางทิ้งอยู่ข้างทางเสด็จซึ่งก็คือรูปพระโพธิสัตว์องค์นี้ บริเวณที่ทรงค้นพบนั้น อาจารย์มานิต วัลลิโภดม อดีตหัวหน้ากองโบราณคดี กรมศิลปากร สันนิษฐานว่าน่าจะอยู่ใกล้กับวิหารพระศิลาแดง 3 องค์ ภายในวัดพระบรมธาตุไชยา

เพื่อน ๆ หลายคนคงกำลังสงสัยใช่ไหมเอ่ยว่าคนในอาณาจักรศรีชัยนับถือศาสนาพุทธ ทำไมถึงไม่สร้างพระพุทธรูปแต่กลับสร้างรูปปั้นพระโพธิสัตว์แทน

       ในคติพุทธศาสนามหายานนับถือและให้ความสำคัญกับพระโพธิสัตว์มาก เชื่อกันว่าพระโพธิสัตว์เป็นผู้ที่บำเพ็ญเพียรและประพฤติธรรมจนสามารถเข้าสู่นิพพานได้แล้ว แต่ด้วยความเมตตาจึงไม่เสด็จไปสู่นิพพาน ยังคงโปรดสัตว์โลกทั้งหลายเพื่อให้พ้นจากสังสารวัฏ แล้วจึงจะเสด็จสู่นิพพานเป็นองค์สุดท้าย จำนวนของพระโพธิสัตว์มีมากมายดุจเม็ดทรายในมหาสมุทร เช่น พระโพธิสัตว์วัชรปาณี พระโพธิสัตว์ปัทมปาณี พระโพธิสัตว์วิศวปาณี ฯลฯ แต่องค์ที่สำคัญ ยิ่งใหญ่ และมีผู้นับถือแพร่หลายที่สุดคือ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
       พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเป็นเทพที่ทรงไว้ซึ่งความเมตตากรุณา ต้องการนำพามวลมนุษย์ไปสู่นิพพาน สัญลักษณ์สำคัญของพระองค์คือรูปจำลองพระอมิตาภะหรือพระพุทธเจ้าปางสมาธิ ประทับนั่งอยู่บนยอดมงกุฎ ในสมัยศรีวิชัยนับถือพระโพธิสัตว์องค์นี้อย่างแพร่หลาย และได้พบรูปพระโพธิสัตว์องค์นี้หลายองค์ในคาบสมุทรภาคใต้ รวมทั้งบริเวณเกาะสุมาตรา เกาะชวาในอินโดนีเซียด้วย

       เพราะเหตุนี้อาณาจักรศรีวิชัยรวมไปถึงดินแดนอื่น ๆ ที่นับถือศาสนาพุทธ นิกายมหายาน จึงนิยมสร้างรูปเคารพพระโพธิสัตว์มากกว่าพระพุทธรูปนั่นเอง 


ที่มา: https://pantip.com

       รูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรหล่อด้วยสำริด ส่วนองค์ท่อนบนของพระโพธิสัตว์ ยืนเอียงพระวรกาย ทรงศิราภรณ์ ส่วนยอดของชฎามกุฎหักหายไป  พระพักตร์มน พระขนงเป็นสันนูนโค้งด้านบนเป็นร่อง พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์จีบ พระเนตรเหลือบต่ำ สวมสร้อยประคำและกรองศอ พระอังสาด้านซ้ายคล้องผ้าเฉวียงบ่า และ คล้องทับด้วยสายยัชโญปวีตมีหัวกวางประดับ  พระกรด้านขวาตั้งแต่พระพาหาหักหายไป  ส่วนพระกรซ้ายยังคงเหลือ  ส่วนต้นพระพาหาสวมพาหุรัด ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับที่พบประดับบนประติมากรรม พระอคัสตยะ จากจันทิ (เจดีย์) บานอนในศิลปะชวาภาคกลาง พระวรกายท่อนล่างชำรุดหายไป ซึ่งมีการสันนิษฐานว่า พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปัทมปาณีที่พบที่ไชยาหากอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก็น่าจะมีลักษณะใกล้เคียงกันกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 4 กร พบที่ทางตะวันออกของอินเดีย

พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 4 กร พบที่ทางตะวันออกของอินเดีย ที่มา: https://www.silpa-mag.com

       สันนิษฐานว่า รูปเคารพนี้อาจเป็นองค์เดียวกับพระโพธิ์สัตว์ปัทมปาณิ ที่กล่าวถึงในจารึกจาก วัดเวียง เรื่อง พระเจ้าธรรมเสตะสร้างปราสาทอิฐ 3 หลัง เพื่ออุทิศถวายแด่พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ 2 พระองค์ คือ พระโพธิสัตว์ปัทมาปาณิ (ผู้ถือถือดอกบัว) พระโพธิสัตว์ปัทมาปาณิทรงเป็นบุคลาธิษฐานของอุบาย ที่นำไปสู่ปัญญาเพื่อบรรลุพุทธภาวะ มีสองกร พระหัตถ์ขวาประทานพร พระหัตถ์ซ้ายทรงถือดอกบัว เป็นรูปแบบหนึ่งของ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรที่มีผู้นับถืออย่างมาก ทั้งในศาสนาพุทธแบบมหายาน และวัชรยาน ซึ่งเคารพนับถืออยู่ในชวาภาคกลางในราวพุทธศตวรรษที่ 13 -14 เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงความเกี่ยวข้องระหว่างอาณาจักรศรีวิชัยในคาบสมุทรภาคใต้ กับราชวงศ์ไศเลนทร์ในชวาภาคกลาง พระปัทมปาณิโพธิสัตว์เป็นพระโพธิสัตว์ที่มีผู้นับถือตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ก่อนการกำเนิดของนิกายตันตระ ชื่อของท่านหมายถึงผู้ถือดอกบัวปรากฏคู่กับพระวัชรปาณีโพธิสัตว์ในศิลปะอินเดียแบบมถุระเมื่อพุทธศตวรรษที่ 7 บางครั้งปรากฏคู่กับพระมัญชุศรีและพระวัชรปาณิเพื่อเป็นตัวแทนของพระโพธิสัตว์จากโคตรทั้งสามคือ ปัทมโคตร ตถาคตโคตร และวัชรโคตร ตามลำดับ รูปลักษณ์ของท่านต่างไปในแต่ละท้องที่ โดยมากเป็นรูปผู้ชายถือดอกบัว ต่อมาได้เพิ่มแจกันใส่น้ำทิพย์ด้วย บางท้องที่ถือว่าเป็นภาคสำแดงของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์

ที่มาhttps://th.wikipedia.org
       นี่ก็คือเรื่องราวของรูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรที่ลิตเติ้ลอาร์นำมาฝากเพื่อน ๆ ในวันนี้ เพื่อน ๆ คนไหนอยากแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็น สามารถพูดคุยกันได้ที่ช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างได้เลย สำหรับวันนี้ลิตเติ้ลอาร์ต้องขอลาเพื่อน ๆ ไปก่อน สัปดาห์หน้าลิตเติ้ลอาร์จะนำความรูเรื่องอะไรมาฝากเพื่อน ๆ ต้องราติดตามกันนนนนนน เจอกันนะทุกคนนนนนนน :)


ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร. พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร. ค้นเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2560,
       จาก http://www.virtualmuseum.finearts.go.th

ศิลปวัฒนธรรมประติมากรรมชำรุด แต่งามที่สุดในสยามค้นเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2560,
       จาก https://www.silpa-mag.com

กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากรพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรค้นเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2560,
       จาก https://www.silpa-mag.com









ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม